Blue Velvet (1986)

สำรวจด้านมืดของมนุษย์ ในโลกที่ความสงบเรียบร้อยเป็นเพียงฉากหน้าจอมปลอม

สำรวจด้านมืดของมนุษย์ ในโลกที่ความสงบเรียบร้อยเป็นเพียงฉากหน้าจอมปลอม

เรื่องน่าประหลาดของ Blue Velvet ของเดวิด ลินช์ คือการที่หลังจากออกฉายหนังก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำรายได้ไปเพียง 8.6 ล้านเหรียญ (จากทุนสร้าง 6 ล้านเหรียญ) แต่มันกลับสามารถสร้างปรากฏการณ์ ‘ความคัลต์’ ในหมู่นักดูหนัง จนกลายมาเป็นงานคัลต์คลาสสิกขึ้นหิ้ง และยังเป็นผลงานที่ทำให้เส้นทางอาชีพของเดวิด ลินช์ (ที่เพิ่งล้มเหลวกับ Dune มาหมาด ๆ) กลับมาอยู่ในร่องในรอย จะเรียกว่ามันได้กำหนดทิศทางของผลงานชิ้นต่อ ๆ ไปของเขาแทบทั้งหมดก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์นี้เองที่นำไปสู่การสร้าง Mulholland Drive (2001) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ซับซ้อนที่สุดตลอดกาล อีกข้อที่ทำให้ Blue Velvet มีความพิเศษเหนือผลงานอื่น ๆ ของลินช์ คือการที่เรื่องราวการสืบสวนสอบสวนของหนังดูจะเป็นเพียงฉากหน้าที่แฝงนัยยะวิพากษ์วิจารณ์การเมืองสังคมอเมริกันอย่างเผ็ดร้อน

Blue Velvet เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าพิศวงที่เกิดขึ้นในเมืองลัมเบอร์ตัน เมืองสมมุติที่ภายนอกดูเงียบสงบ ปกคลุมไปด้วยสนามหญ้าเขียวขจี ตัดสลับด้วยรั้วสีขาวสะอาดสะอ้าน มีดอกกุหลาบสีแดงสดแทรกอยู่ประปราย ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเชื่องช้า อย่างภาพของชายสูงวัยที่กำลังรดน้ำต้นไม้อย่างสบายใจเฉิบ เรื่องราวไม่ชอบมาพากลเรื่องแรกเกิดขึ้น เมื่อชายสูงวัยเกิดล้มหมดสติอย่างหน้าตาเฉย ก่อนที่หนังจะสลับไปบอกเล่าเรื่องราวของเจฟฟรีย์ (ไคล์ แม็คลัคแลน) เด็กหนุ่มที่เดินทางกลับมายังลัมเบอร์ตันบ้านเกิดหลังจากคุณพ่อของเขาล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ระหว่างที่เจฟฟรีย์กำลังเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายในสนามหญ้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน เขาบังเอิญไปพบ ‘หู’ ของมนุษย์ตกหล่นอยู่บนพื้นหญ้า กล้องค่อย ๆ ลดตัวลงต่ำขณะซูมเข้าใกล้หูปริศนานั้น เผยให้เห็นภาพมดนับร้อยตัวกำลังกรูเข้ามาอย่างน่าขนลุกขนพอง

ด้วยความฉงนสงสัยเขาจึงนำมันไปส่งยังสถานีตำรวจ นั่นคือตอนที่เจฟฟรีย์ได้รู้จากแซนดี้ (ลอรา เดิร์น) ลูกสาวของนักสืบ ว่าเรื่องราวลี้ลับดำมืดทั้งหลายของหูปริศนานี้ ดูจะเกี่ยวโยงเข้ากับโดโรธี วัลเลนส์ (อิซาเบลลา รอสเซลินี – ลูกสาวของอิงกริด เบิร์แมนและโรแบร์โต รอสเซลลินี) นักร้องสาวสวย ณ ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เจฟฟรีย์และแซนดี้จึงร่วมมือกันวางแผนลักลอบเข้าไปยังห้องพักของนักร้องสาว ที่นั่นเองที่เจฟฟรีย์ได้ค้นพบความลับอันน่าสะพรึงที่จะพาเขาถลำลึกไปยังโลกใต้ดินอันสกปรกโสมมที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ฉากหน้าอันสวยงามของเมืองลัมเบอร์ตัน อย่างการมาของแฟรงก์ บูธ (เดนนิส ฮอปเปอร์) หัวหน้าแก๊งมาเฟียโรคจิตที่กระทำการขืนใจโดโรธีอย่างโหดเหี้ยม

แง่หนึ่ง วิธีการที่เดวิด ลินช์จับวางเรื่องราวอันน่าอดสูเหล่านี้มาวางตัดกับภาพความเงียบสงบชวนให้เพ้อฝันของเมืองลัมเบอร์ตัน ก็ดูจะเป็นการสะท้อนภาพของอเมริกานั่นเอง เพราะเอาเข้าจริง ในทำนองเดียวกับเมืองลัมเบอร์ตันที่ลินช์อุปโลกขึ้นมา นี่คือประเทศที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความสงบสุขจอมปลอมที่เนื้อในล้วนแต่เน่าเฟะ จิตใจของผู้คนกำลังผุกร่อนถึงขีดสุด และโดยปริยายมันทำให้สังคมในภาพรวมง่อนแง่นโคลงเคลงพร้อมจะล้มครืนลงมาได้ทุกเมื่อ ฉากหนึ่งที่น่าสนใจ คือตอนที่แฟรงก์ บูธที่ภายนอกที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่า เผยให้เห็นมุมอ่อนโยนของตัวเองอย่างประดักประเดิด เขาร้องโอดครวญถึง ‘แม่’ ระหว่างที่กระทำชำเราโดโรธีไปด้วย บางที นั่นอาจจะสะท้อนถึงปมออดิปุสที่ยังคงฝังรากอยู่ในอัตลักษณ์ตัวตนของแฟรงก์ ส่งผลให้เขามีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง.หรือแม้แต่ตัวโดโรธีเอง ส่วนที่ชวนพิศวงอย่างพิลึกพิลั่นคือตอนที่เธอจับได้ว่าเจฟฟรีย์กำลังแอบซุ่มดูเธออยู่ในตู้เสื้อผ้า ทว่าแทนที่จะตกใจกลัว เธอกลับฉวยโอกาสนี้กระทำการข่มเหง (ทั้งร่างกายและจิตใจ) เจฟฟรีย์เสียอย่างนั้น และที่ยิ่งสร้างความสับสนเข้าไปอีก คือระหว่างที่เธอร่วมรักกับเจฟฟรีย์ เธอกลับขอให้เขาทำร้ายเธออย่างน่าฉงน ทั้งหลายแหล่เหล่านี้ดูจะเป็นความป่วยไข้ที่มีผลพวงจากการถูกกระทำอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนเธอเสพติดการได้รับและส่งต่อความรุนแรง

ตัวละครที่ดูจะปกติ(ที่สุด) อย่างเจฟฟรีย์และแซนดี้เอาเข้าจริงก็มีปมปัญหาให้เข้าไปสืบสาวราวเรื่องอยู่ไม่น้อย คำถามสำคัญที่ดูจะมาพร้อมกับตัวละครเจฟฟรีย์ คือ เหตุใดเขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำการสืบสวนคดีความเหล่านี้ด้วยตนเอง? ถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเข้าไปพัวพันกับแก๊งมาเฟียบ้าระห่ำที่พร้อมจะตัดอวัยวะของเขาทิ้งทุกเมื่อ? ที่แยบคายจริง ๆ คือการที่ลินช์ไม่ได้ทิ้งคำตอบไว้ให้คนดูเห็นโดยง่าย ภาพยนตร์ของลินช์ไม่ใช่หนังประเภทที่พอเข้าสู่ช่วงท้ายตัวละครก็มานั่งจับเข่าเฉลยปมทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ในหนังของลินช์นั่นคือส่วนที่เราคนดูต้องไปตามหากันเอาเอง บางทีเจฟฟรีย์อาจจะไม่ใช่หนุ่มหน้าใสใจซื่ออย่างที่เราคนดูคิดว่าเขาเป็น บางทีทั้งหมดทั้งหมดนี่อาจจะเป็นเรื่องราวของหนุ่มจิตพิกลพิการที่ลึก ๆ แล้วก็ไม่ได้แยแสว่าพ่อของเขาจะเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างไร แต่เพียงอยากจะหาอะไรทำคั่นเวลาระหว่างที่เขาต้องกลับมาใช้ชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายในเมืองเล็ก ๆ ที่ทุกอย่างดูสงบเรียบร้อยไปเสียหมด

บางทีนั่นอาจจะเป็นภาพของอเมริกาในสายตาของลินช์ มันคือดินแดนสนธยาที่ภายนอกดูสวยหรู แต่ผู้คนที่อยู่ภายในต่างหากที่กำลังป่วยไข้อย่างสาหัส ไม่เว้นแต่แม้แซนดี้ เด็กสาวที่พื้นเพครอบครัวฐานะค่อนข้างดี เธอเป็นลูกนายตำรวจผู้มีหน้าที่การงานมั่นคง ได้เข้าเรียนโรงเรียนดี ๆ มีเพื่อนคบหา มีคนรู้ใจ แต่เธอก็ยังไปตกหลุมรักหนุ่มไม่เอาไหนอย่างเจฟฟรีย์ แม้กระทั่งจับได้คาหนังคาเขาว่าเขาแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโดโรธีเธอก็พร้อมจะให้อภัยทั้งอย่างนั้น บางทีคงไม่ใช่ว่าเธอใจดีหรืออะไรหรอก เธอรู้ว่ามันผิด แต่เพราะมันผิดนั่นแหละที่ทำให้มันเย้ายวนใจเสียจริง คงจะอย่างที่เธอกล่าวไว้ในตอนท้าย นี่คือโลกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน

Grade: A-

Directed by David Lynch
Produced by Fred Caruso
Written by David Lynch
Starring Kyle MacLachlan, Isabella Rossellini, Dennis Hopper, Laura Dern, Hope Lange, George Dickerson, Dean Stockwell
Music by Angelo Badalamenti
Cinematography by Frederick Elmes
Edited by Duwayne Dunham

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s