
หลังจากปล่อยให้ลุ้นมานาน ในที่สุดคานส์ก็เปิดเผยแล้วว่า Killers of The Flower Moon ผลงานใหม่ของมาร์ติน สกอร์เซซี จะไม่ได้เข้าฉายในสายประกวดหลัก แต่จะฉายในสาย Out of Competition แทน เธียรร์รี เฟรโมซ์ ประธานผู้คัดเลือกหนังเข้าสู่เทศกาล กล่าวระหว่างประกาศรายชื่อหนังของเทศกาลประจำปีนี้ว่า “นี่คือหนังที่ยอดเยี่ยมมาก ผมอยากให้หนังได้เข้าฉายในสายประกวดและได้พยายามโน้มน้าวมาร์ติน สกอร์เซซี และ Apple ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแล้ว ผมยังหวังว่าพวกเขาจะเปลี่ยนใจ” เป็นที่รู้กันว่า คานส์มีข้อจำกัดที่แข็งกร้าวต่อหนังสตรีมมิง โดยเทศกาลกำหนดว่าหนังจะต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ฝรั่งเศส ก่อนจะเข้าฉายในสตรีมมิงได้ในอีก 15 เดือนถัดไป เป็นไปได้ว่าทางเทศกาลและผู้จัดจำหน่ายยังไม่สามารถโอนอ่อนผ่อนปรนกันได้ในเงื่อนไขข้อนี้ แต่จากคำให้สัมภาษณ์ข้างต้น เป็นไปได้ว่าเจรจายังไม่เสร็จสิ้น เราจึงต้องรอลุ้นกันต่อไป
แต่ถึงอย่างไร ไลน์อัพสายประกวดคานส์ปีนี้ก็ยังถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว เพราะแชมป์เก่ารวมถึงบิ๊กเนมขาประจำทั้งหลายกลับมากันพร้อมหน้า อย่าง แนนนี โมเร็ตติ, เคน โลช, ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ, เวส แอนเดอร์สัน, วิม เวนเดอร์ส แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันถึงสิ่งที่คานส์โดนวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด นั่นคือ ความเป็นสมาคมอุปถัมภ์สำหรับคนทำหนังชั้นครูที่เปิดรับคนหน้าใหม่ ๆ น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่ายินดีก็คือครั้งนี้คานส์บรรจุหนังของผู้กำกับหญิงเข้าไปในสายประกวดหลักถึงหกคน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเท่าที่เทศกาลเคยมีมา
โดยไฮไลต์สำคัญคือจากหกคนนี้ มีสองผู้กำกับหน้าใหม่สำหรับสายประกวดหลัก หนึ่งคือ รามาตา-ตูลาย ซี (Ramata-Toulaye Sy) คนทำหนังชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเซเนกัล กับหนังเรื่อง Banel & Adama ที่จะเล่าถึงเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวท่ามกลางแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมของสังคมชนบท อีกหนึ่งคือ เคาเธอร์ เบน ฮาเนีย (Kaouther Ben Hania) คนทำหนังชาวตูนิเซีย เจ้าของผลงาน Beauty and the Dogs (2017) และ The Man Who Sold His Skin (2020) ที่คอหนังน่าจะรู้จักกันดี คราวนี้เธอมากับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Four Daughters ที่จะเล่าเรื่องราวของแม่ผู้สูญเสียลูกสาวสองจากสี่คนของเธอ โดย Four Daughters จะเป็นหนึ่งในสองสารคดีที่ได้เข้าสายประกวดหลักปีนี้

นอกจากนี้ยังมี La Chimera หนังใหม่ของอลิซ โรห์วาเชอร์ ที่ได้จอช โอคอนเนอร์ จาก The Crown มาแสดงนำ รวมถึงอิซาเบลลา รอสเซลลินีด้วย โดยหนังจะเล่าถึงนักโบราณคดีชาวอังกฤษที่เข้าไปพัวพันกับการลักลอบค้าโบราณวัตถุในช่วงยุค 1980 นี่จะเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่โรห์วาเชอร์เข้าสายประกวดคานส์ โดยสองครั้งก่อนหน้านี้เธอยังไม่เคยกลับบ้านมือเปล่า โดยได้ Grand Prix จาก The Wonders (2014) และ Best Screenplay จาก Happy as Lazzaro (2018) นี่จึงเป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามอง ไม่แน่ครั้งนี้โรห์วาเชอร์อาจมีลุ้นถึงปาล์มทองคำก็เป็นได้

อีกหนึ่งการคัมแบ็คที่หลายคนให้ความสนใจคือ Last Summer หนังเรื่องแรกในรอบ 10 ปีของแคเธอรีน เบรย์ญาต์ (Catherine Breillat) provocateur คนสำคัญของฝรั่งเศส โดยผลงานล่าสุดของเธอคือ Abuse of Weakness (2013) ที่แสดงโดยอิซาแบล อูแปรต์ ครั้งนี้ Last Summer จะเล่าเรื่องราวของแม่ลูกสองที่แอบไปมีสัมพันธ์ลับ ๆ กับเด็กหนุ่มผู้เป็นลูกติดของสามี ขาประจำของคานส์อีกคนที่กลับมาคือ เจสสิกา เฮาส์เนอร์ กับผลงานเรื่อง Club Zero ที่ได้มีอา วาซิคอฟสกา มาแสดงนำ โดยหนังจะเล่าถึงคุณครูที่เข้าไปสร้างลัทธิการกินรูปแบบใหม่ในโรงเรียนชนชั้นสูงแห่งหนึ่ง จัสตีน ทรีเอต์ (Justine Triet) กลับมาอีกครั้งหลังจาก Sibyl (2019) กับฮิตช์ค็อกเกียนทริลเลอร์ เรื่อง Anatomy of a Fall เล่าถึงการสอบสวนคดีฆาตกรรมชายคนหนึ่งที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกชายผู้พิการทางสายตา หนังได้แซนดรา ฮุลเลอร์ (จาก Toni Erdmann) มาแสดงนำ
แชมป์เก่าคนคุ้นหน้าอย่าง แนนนี โมเร็ตติ เจ้าของรางวัลปาล์มทองคำจาก The Son’s Room กลับมากับผลงานเรื่อง The Sun of the Future ที่เจ้าตัวเปิดเผยอย่างคร่าว ๆ ว่าจะเล่าถึงเรื่องราวของคณะละครสัตว์ในอิตาลีช่วงยุค 1950-60 โดยจะคาบเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ขณะนั้นด้วย อีกด้านหนึ่ง เคน โลช กลับมาลุ้นปาล์มทองคำสมัยที่สามเช่นกันกับผลงานเรื่อง The Old Oak ซึ่งว่าด้วยกันปะทะกันระหว่างคนรุ่นเก่าและใหม่ในชุมชนเหมืองถ่านหินแห่งนึ่งที่กำลังพบกับความท้าทายเมื่อเหมืองหลายแห่งกำลังปิดตัวลง

วิม เวนเดอรส์ กลับมาลุ้นปาล์มทองคำสมัยที่สองของตัวเองกับหนังภาษาญี่ปุ่นเรื่อง Perfect Days ว่าด้วย เรื่องราวของพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะในโตเกียว เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันท่ามกลางชีวิตราบเรียบค่อย ๆ เปิดเปลือยให้เห็นอดีตของเขา แสดงนำโดย โคจิ ยาคูโช (จาก Cure) วิม เวนเดอร์ส ยังส่งภาพยนตร์สารคดีเข้าฉายในสาย Special Screening อีกเรื่องคือ Anselm ว่าด้วยเรื่องราวของศิลปินชาวเยอรมัน Anselm Kiefer ภาพยนตร์ญี่ปุ่นอีกเรื่องในสายประกวดหลักคือ Monster ของฮิโรคาสุ โคเรเอดะ ที่ได้ซากุระ อันโดะกลับมาแสดงนำ หนังจะพาคนดูไปสำรวจเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ‘ปีศาจ’ ผ่านสามมุมมองในสไตล์การเล่าแบบ ‘ราโชมอน’ นั่นคือ คุณแม่ คุณครู และตัวเด็ก โดยงานประพันธ์ดนตรีประกอบในหนังเรื่องนี้จะเป็นผลงานสุดท้ายของริวอิจิ ซากาโมโตะ ซึ่งนักดูหนังกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ฟัง

คนทำหนังชาวเอเชียอีกคนในสายประกวดหลักคือ หวังปิง (Wang Bing) คนทำหนังสารคดีคนสำคัญจากจีน ที่ครั้งนี้จะมากับผลงานเรื่อง Jeunesse หรือ Shanghai Youth สารคดีจะเล่าถึงเรื่องราวของแรงงานคนหนุ่มสาวจากยูนนานที่อพยพเข้ามาทำงานหาเลี้ยงชีพในกรุงเซี่ยงไฮ้ เมื่อพิจารณาจากกระแสหนังสารคดีที่กำลังมาแรง คว้ารางวัลในหลายเทศกาลสำคัญช่วงนี้ นี่จึงเป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามองมาก ๆ และเหมือน ๆ กับหนังของหวังปิงหลายเรื่องก่อนหน้านี้ หนังจะมีความยาวถึง 360 นาที นอกจากนี้ยังมีหนังของตรันอันห์ฮุง (Tran Anh Hung) ผู้กำกับชื่อดังจากเวียดนาม เจ้าของผลงาน The Scent of Green Papaya ที่คราวนี้มาในหนังภาษาฝรั่งเศสเรื่อง La passion de Dodin Bouffant เล่าเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างแม่ครัวและนักชิมอาหาร แสดงนำโดยจูเลียต บิโนช และเบนัวต์ มาจิเมล (จาก The Piano Teacher)

อีกคนที่นักดูหนังน่าจะตั้งตารอคอยมาก ๆ คืออากิ กัวรีสมากี กับหนังเรื่อง Fallen Leaves ที่จะเป็นหนังลำดับที่ 4 ของไตรภาคที่นักดูหนังน่าจะรู้จักกันดีในชื่อ ‘ไตรภาคชนชั้นกรรมาชีพ’ (Shadows in Paradise, Ariel, and The Match Factory Girl) หนังจะเล่าถึงเรื่องราวความรักของชายหญิงชนชั้นแรงงานที่บังเอิญพบเจอกันท่ามกลางความเหน็บหนาว โดดเดี่ยว และเปลี่ยวเหงาของกรุงเฮลซิงกิ แชมป์เก่าและขาประจำอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ คนทำหนังชาวตุรกี นูริ บิลจ์ เซย์ลาน ที่จะมาลุ้นปาล์มทองคำสมัยที่สองกับหนังเรื่อง About Dry Glasses เล่าถึงครูจบใหม่ที่รอคอยจะได้ย้ายจากชีวิตหดหู่ของชนบทเข้าไปทำงานยังกรุงอิสตันบูล ทว่าความฝันของเขากลับพังทลายลงเมื่อถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดนักเรียนหญิงสองคน

อีกหนึ่งมาสเตอร์ที่หลายคนรอคอยผลงานของเขามาเนิ่นนานคือ โจนาธาน เกลเซอร์ ที่จะคัมแบ็คในรอบสิบปีกับผลงานเรื่อง The Zone of Interest ที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ มาร์ติน แอมิส หนังจะเล่าเรื่องราวของเจ้าหน้าที่นาซีที่แอบหลงรักภรรยาของผู้บัญชาการค่ายเอาช์วิทซ์ นี่คือหนังเรื่องที่สองในสายประกวดที่แซนดรา ฮุลเลอร์ มาแสดงนำ นอกจากนี้ยังมี May December ของท็อดด์ เฮยน์ส ที่ได้จูลีแอน มัวร์ และ นาตาลี พอร์ตแมน มาร่วมแสดงนำ หนังเล่าเรื่องราวของคู่รักที่ชีวิตคู่ของพวกเขาต้องถูกสั่นคลอนเมื่อนักแสดงหญิงคนหนึ่งขอเข้ามาขุดคุ้ยอดีตของทั้งคู่ซึ่งกำลังจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ท็อดด์ เฮยน์ส ขึ้นชื่อในเรื่องของการกำกับการแสดง และเคยส่งรูนีย์ มารา ไปรับรางวัลนักแสดงนำหญิงของคานส์มาแล้วกับ Carol (2015) เรื่องนี้จึงน่าจับตามาก ๆ โดยเฉพาะในสาขารางวัลนักแสดง
ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อหนังในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้ยังไม่สิ้นสุด เธียร์รี เฟรโมซ์กล่าวเสริมว่าในสายประกวดหลักอาจมีหนังถึง 22-23 เรื่อง และมีอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เป็นหนังของผู้กำกับหญิงที่เขากำลังพิจารณาอยู่
เทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 76 จะจัดขึ้นในช่วง 16-27 พฤษภาคมนี้
https://variety.com/2023/film/global/cannes-film-festival-lineup-2023-full-list-1235581154/