Tag Archives: DavidLynch

Wild at Heart (1990)

ในวันที่ ‘American Dream’ เป็นเพียงเรื่องจอมปลอม

ในวันที่ ‘American Dream’ เป็นเพียงเรื่องจอมปลอม

Wild at Heart คือหนังโร้ดมูฟวี่สุดระห่ำที่ครั้งหนึ่งได้สร้างความร้าวฉานอย่างหนักหน่วงในหมู่คนดูและนักวิจารณ์ของเทศกาลหนังเมืองคานส์ และอย่างที่คอหนังคานส์พอจะทราบกันดีนั่นแหละ นี่คือเทศกาลหนังที่ชื่นชอบความแตกแยกเหลือเกิน แง่หนึ่งจึงไม่แปลกนักที่มันได้ส่งเดวิด ลินช์ไปรับรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) อันเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาล ส่วนที่ทำให้ผลงานของเดวิด ลินช์เรื่องนี้ถูก ‘ยี้’ อย่างหนักจริง ๆ คือการฉายภาพความรุนแรงชนิดเปลือยเปล่าให้คนดูเห็นกันตำตา (ซึ่งในขณะนั้นยังนับว่าเป็นเรื่องใหม่และน่าฮือฮา) ไม่ใช่เพียงเลือดสีแดงสดที่สาดกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ แต่ยังมีภาพเซ็กส์และฉากโป๊เปลือยโจ๋งครึ่ม ไปจนถึงการล่วงละเมิดทั้งทางกายและวาจา แต่นั่นเป็นเพียงเปลือกนอกที่ห่อหุ้มตัวหนังเอาไว้เท่านั้น ส่วนที่อยู่ข้างใน เนื้อหาสาระที่ว่าด้วยการออกเดินทางของหนุ่มสาว (หรืออีกนัยหนึ่ง-การวิ่งหนี) เพื่อหลุดพ้นจากโลกที่ฉุดรั้งไม่ให้พวกเขาได้เติบโต คือการวิพากษ์วิจารณ์ ‘American Dream’ โดยตรง

หนังบอกเล่าการผจญภัยของเซลเลอร์ (นิโคลัส เคจ) หนุ่มหัวขบถที่กำลังคบหาดูใจกับลูล่า (ลอร่า เดิร์น) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของแมริเอตตา (ไดแอนน์ แลดด์) เรื่องราวฉาวโฉ่เกิดขึ้นเมื่อเซลเลอร์เกิดบันดาลโทษะ ‘พลั้งมือ’ ฆ่าชายที่แม่ของลูล่าจ้างมาปลิดชีพเขา หลังสิ้นสุดการรับโทษในเรือนจำเซลเลอร์และลูล่าตัดสินใจขับรถออกเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังแคลิฟอร์เนีย ดินแดนที่พวกเขาไม่รู้จักใครและไม่มีใครรู้จักพวกเขา ทว่าจนแล้วจนรอด แมริเอตตายังไม่ลดละความพยายามที่จะฉุดรั้งลูกสาวของเธอจากเซลเลอร์ จึงขอความช่วยเหลือไปยังจอห์นนี (แฮร์รี ดีน สแตนตัน) พร้อมกับว่าจ้างซานโตส (เจ.อี. ฟรีแมน) มือปืนรับจ้างให้ออกตามล่าเซลเลอร์และนำลูล่ากลับมาหาเธอ

ฉากที่ดูจะเป็นรางบอกเหตุร้ายเกิดขึ้นระหว่างที่เซลเลอร์และลูล่ากำลังเดินทาง พวกเขาพบกับซากรถพลิกค่ำอยู่ข้างทาง ทั้งสองจึงลงไปสำรวจก่อนจะพบว่ามีหญิงสาวผู้รอดชีวิตทว่าเจียนตายเจียนอยู่ พวกเขาพยายามจะช่วยชีวิตเธอแต่ก็สายเกินไป จึงไม่ใช่เรื่องผิดคาดอะไรนักที่ต่อมาการเดินทางของทั้งสองจะเต็มไปด้วยเรื่องอุปสรรคนับไม่ถ้วน ช่วงหนึ่งที่น่าจะสร้างความบอบช้ำในหมู่คนดูได้อย่างหนักหน่วงคือตอนที่ทั้งสองไปพบกับบ๊อบบี้ เปรู (วิลเลม เดโฟ) หัวหน้าแก๊งอันธพาลในเท็กซัสที่ฉกฉวยโอกาสที่เงินในกระเป๋าของเซลเลอร์กำลังร่อยหรอ เข้าล่วงละเมิดลูล่าอย่างน่าสะอิดสะเอียน (แต่ต้องปรบมือให้กับการแสดงอันน่าขยะแขยงของเดโฟ) รวมถึงชักจูงให้เซลเลอร์ที่กำลังเข้าตาจนจำต้องร่วมก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์กับเขา ซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขาต้องวกกลับสู่วังวนเดิม ๆ ของสังคมแห่งความเสื่อมทราม เซลเลอร์ถูกจับกุมและต้องชดใช้กรรม(ที่เขาเองก็ไม่อยากก่อ)อีกครั้ง ขณะที่ลูล่าก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือแม่ของเธออีกเช่นกัน

แง่หนึ่ง ทั้งหมดทั้งมวลคือวิธีการที่ลินช์ฉายให้เห็นชีวิตเปราะบางของอเมริกันชนรุ่นใหม่ เซลเลอร์ คือตัวแทนของเด็กหนุ่มนอกคอกที่ฝันอยากจะเป็นศิลปินอย่างเอลวิส เพลสลีย์ แต่สังคมมอบโอกาสให้เขาเป็นได้เพียงกุ๊ยข้างถนน ขณะที่ลูล่า คือภาพแทนของลูกหลานอเมริกันชนชั้นกลางมีอันจะกิน ชีวิตที่ถูกตีกรอบไว้อย่างแน่นหนาทำให้เธอโหยหาอิสรภาพมากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอหลงใหลชีวิตที่ไร้กำหนดกฎเกณฑ์ของเซลเลอร์เหลือเกิน เอาเข้าจริง เหล่านี้สะท้อนออกมาตั้งแต่ชื่อตัวละคร เซลเลอร์ (Sailor) หรือกะลาสี สื่อถึงนัยยะของการโลดแล่นออกไปยังท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ขณะที่ลูล่า (Lula หรือ Rule) แน่นอนว่าสะท้อนความมีกำหนดกฎเกณฑ์

บางทีนัยยะของ ‘การออกเดินทาง’ ของหนัง อาจไม่ได้รวมถึงการมุ่งสู่ปลายทางที่ใฝ่ฝัน หากแต่เพียงเป็นการ ‘วิ่งหนี’ ชีวิตอันบอบช้ำจำเจ ชีวิตที่พวกเขาเป็นได้เพียงสิ่งที่สังคมตีกรอบไว้ให้ เซลเลอร์วิ่งหนีชีวิตที่เขาเป็นได้เพียงจุดด่างพร้อยของสังคม แต่ก็มิวายลงเอยด้วยการกลับไปที่จุดเดิม เช่นเดียวกับลูล่าที่พยายามวิ่งหนีสังคมจอมปลอมที่ครั้งหนึ่งเคยล่วงเกินเธอ แต่จนแล้วจนรอดก็หนีไม่พ้นคนอย่างบ๊อบบี้ เปรู ที่แอบแฝงอยู่ในทุกสังคม บางทีสำหรับบางคน หากไร้ซึ่งเวทมนตร์คาถาของแม่มด ‘American Dream’ คงเป็นเพียงเรื่องจอมปลอมที่ไม่มีอยู่จริง.

Grade: B+

Directed by David Lynch
Produced by Steve Golin, Monty Montgomery, Sigurjón Sighvatsson
Screenplay by David Lynch
Starring Nicolas Cage, Laura Dern, Willem Dafoe, Crispin Glover, Diane Ladd, Isabella Rossellini, Harry Dean Stanton
Music by Angelo Badalamenti
Cinematography by Frederick Elmes
Edited by Duwayne Dunham